ปวดหัวเหมือนมีอะไรทับ เวียนหัว บ้านหมุน

[Blog] Case Study ep5 | Written By CoHand Clinic

ไม่ได้จบแค่ “หมุนตะกอนกลับ”
รักษาต้องครบทั้ง “ตา – หู – คอ – การเดินทรงตัว”

อาการเวียนหัวบ้านหมุนหลายครั้งไม่ได้เกิดจากแค่หินปูนหลุดในหู แต่เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกันของ

  • กระดูกคอ

  • การโฟกัสภาพทางสายตา

  • ระบบการทรงตัว
    ซึ่งต้องได้รับการประเมินและรักษาอย่างครบถ้วน

เคสตัวอย่าง: หญิงอายุ 60 ปี

ลักษณะการใช้ชีวิต: ทำงานบ้านบ้างประปราย

อาการ:

  • ตื่นเช้ามารู้สึกอึน เวียนหัว

  • บ้านหมุนจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้ แม้แต่ไปเข้าห้องน้ำ

  • ครึ่งวันผ่านไปเริ่มคลื่นไส้

  • ตอนเย็นพอเดินทางมาคลินิก เดินเซ ไม่กล้านอนราบ

  • รู้สึกหนักที่หน้าผาก เหมือนมีอะไรมาทับ

  • เคยมีประวัติเวียนหัวและบ้านหมุนมาก่อน

  • อาการนี้กลับมาอีกหลังจากเงียบไป 3 เดือน

การตรวจวินิจฉัย

1. แยกต้นตออาการ: สมอง (Central) หรือหูชั้นใน (Peripheral)

ตรวจระบบการเคลื่อนไหวของดวงตา (Oculomotor test):

  • Spontaneous nystagmus: ปกติ

  • Smooth pursuit: ปกติ

  • Gaze-evoked nystagmus: พบความผิดปกติ

ตรวจ Head Impulse และ Head Shaking Test:

  • พบอาการตากระตุก (Nystagmus)
    → สงสัยเป็นความผิดปกติของหูชั้นใน (Peripheral vestibular lesion)

Fukuda Stepping Test:

  • คนไข้หมุนตัวไปด้านซ้ายเกือบ 90 องศา
    → ยืนยันว่าระบบทรงตัวหูชั้นในผิดปกติจริง

Dix-Hallpike Test ด้านขวา:

  • พบอาการ Upbeat torsional nystagmus
    → วินิจฉัยว่าเป็น Right Posterior Canal BPPV (หินปูนหลุดในท่อหูชั้นในด้านหลังขวา)

แนวทางการรักษา

1. Epley Maneuver

เริ่มทำทันที พบว่าคนไข้ยังมึนอยู่ แต่อาการดีขึ้นเล็กน้อย

ตรวจพบเพิ่มเติม

2. กล้ามเนื้อคอ และกระดูกต้นคอ C1–C2

  • คนไข้หมุนคอไปซ้ายได้ไม่สุด

  • ยิ่งหมุนยิ่งรู้สึกหนักที่หน้าผาก

  • คาดว่าเกิดจากกล้ามเนื้อคอเกร็งสะสมจากการเวียนหัวทั้งวัน

  • ตรวจพบว่ากระดูกคอระดับ C1–C2 ติดขัด
    → ตำแหน่งนี้มีเส้นประสาทรับความรู้สึกจากกล้ามเนื้อใต้ฐานกะโหลก
    → หากข้อมูลจากคอส่งผิด สมองจะประมวลตำแหน่งศีรษะคลาดเคลื่อน และกระตุ้นให้เกิดอาการเวียนหัว

จึงทำเทคนิค Mobilization with Movement
→ คอหมุนได้ดีขึ้น
→ ความรู้สึกหนักที่หน้าผากลดลง

3. ตรวจการเดินทรงตัว

  • ให้เดินต่อเท้า 10 ก้าวในระยะ 3 เมตร

  • คนไข้เดินเซ เท้าออกนอกเส้น
    → จำเป็นต้องฝึกการเดินทรงตัวในขั้นถัดไป

4. ตรวจระบบการมองภาพขณะเคลื่อนไหวศีรษะ

Volitional Head Movement:

  • ใช้ Metronome จาก 80 BPM จนถึง 100 BPM

  • พบว่าคนไข้เริ่มมองภาพไม่ชัดที่ความเร็วนี้
    → ถือว่าผิดปกติ เพราะปกติควรมองชัดได้ถึง 175 BPM

จึงเริ่มฝึก Gaze Stability Exercise
→ เพื่อเพิ่มความมั่นคงของภาพเวลาขยับศีรษะ

สรุปเคสนี้

  • เวียนหัวเวลาเปลี่ยนท่า เพราะหินปูนในหูหลุด (BPPV)

  • กระดูกคอระดับ C1–C2 ติดขัด ทำให้สมองรับข้อมูลจากคอผิด → ส่งผลต่อการทรงตัว

  • การเคลื่อนไหวคอลำบาก → กระทบความสามารถในการทรงตัว

  • การควบคุมตาบกพร่อง → ทำให้โฟกัสภาพไม่ชัดขณะเคลื่อนไหว

  • ต้องรักษาครบทั้ง “ตา – หู – คอ – การเดิน” ให้ประสานกัน

แนวทางการฟื้นฟูที่ใช้:
การฝึกทรงตัว + ฝึกกล้ามเนื้อตา + แก้กระดูกคอติดขัด → ช่วยลดเวียนหัวและคืนความมั่นคงในการทรงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ